เรื่อง มะพร้าวชาวสวน..
ขอขอบคุณภาพจาก Google
ชนิดและพันธุ์มะพร้าว
มะพร้าวเป็นพืชปลูกก้นมาเป็นเวลานานทั่วเขตร้อนของโลก
จึงมีความแตกต่างกันในรูปทรง และลักษณะอื่นๆ อย่างหลากหลาย
มีนักพฤษศาตร์หลายท่านพยายามจำแนกพันธ์มะพร้าวที่ปลูกกันออกเป็นหมวดหมู่ แต่ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป
ซึ่งในการจำแนกพันธ์มะพร้าวออกเป็นหมวดหมู่นั้นใช้การพิจารณาลักษณะต่างๆที่สำคัญ 3
ประการคือ การเจริญเติบโตของลำต้น อายุที่มะพร้าวเริ่มตกผล
และลักษณะการบานของดอก ซึงจากหลักเกณฑ์ทั้ง 3 ข้อนี้
สามารถจำแนกพันธ์มะพร้าวได้คร่าวๆ เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ มะพร้าวพันธ์ต้นสูง
และ มะพร้าวต้นเตี้ย
ความหมายของพันธุ์ต่างๆ
ขอขอบคุณภาพจาก Google
กลุ่มที่ 1 : พันธุ์ต้นสูง ออกผลช้า
มีสะโพกผสมข้าม
เริ่มให้ผลิตหลังจากปลูกแล้ว 5-7 ปี (ขึ้นอยู่กับการดูแล) ลักษณะเด่นของพันธุ์คือ
ดอกเกสรของตัวทำการผสมกันข้ามต้น โดยมะพร้าวในกลุ่มนี้ ได้แก่ มะพร้าวหัวลิง
ทะลายร้อย ปากจกเปลือก หวาน กลาง ซอ ใหญ่
ขอขอบคุณภาพจาก Google
กลุ่มที่
2 : พันธุ์ต้นเตี้ย ออกผลเร็ว ไม่มีสะโพก ผสมตัวเอง
มะพร้าวกลุ่มนี้ความสูงของต้นจะอยู่ประมาณ 12
เมตร ทางใบสั้น ให้ผลผลิตเร็วประมาณ 12 เมตร ทางใบสั้น ให้ผลผลิตเร็วประมาณ 3-4
ปีหลังปลูก ผลผลิตค่อนข้างดกแต่มีขนาดเล็ก อายุให้ผลราว 35-40 ปี
ด้านการผสมเกสรดอกตัวเมียและตัวผู้จะบานในระยะเวลาเดียวกันและสามารถผสมเกสรภายในต้นเดียวกันได้
ส่วนใหญ่นิยมปลูกไว้เพื่อรับประทานผลอ่อนเพราะเนื้อมีลักษณะอ่อนนุ่ม
และน้ามีรสชาติหวานบางพันธุ์น้ามีคุณสมบัติพิเศษ คือ มีกลิ่นหอม
โดยมะพร้าวในกลุ่มนี้ ได้ นกคุ้ม น้าหอม หมูสีเขียว น้าหวาน ทุ่งเคล็ด พวงร้อย
พวงทองหมูสีเหลืง นาฬิเก หมูสีน้าตาล ไฟ หมูสีส้ม ปะทิว
ช่อดอกหรือจั่น มะพร้าวเป็นพืชที่มีดอกตัวผู้และดอกตัวผู้และดอกตัวเมียอยู่ในต้นเดียวกัน
และเกิดในช่องดอกเดียวกัน เรียกว่า จั่น ประกอบด้วยแกนช่อดอกและก้านย่อย หรือระแง้ หรือ มีกาบ 2 แผ่น หุ้มอยู่
ขอขอบคุณภาพจาก Google
ราก
เป็นรากหลักขนาดเท่าๆ
กันแผ่กระจายจากโคลนต้นลึกจากผิวดินประมาณ 50-90 เซนติเมตร
และมีรากย่อยซึ่งที่ปลายรากย่อยจะมีหมวกรากใช้ในการดูดน้าและธาตุอาหาร
นอกจากนี้ยังมีรากอากาศนำอากาศจากด้านบนไปสู่รากที่อยู่ใต้ดินทำให้มะพร้าวเจริญเติบโตบริเวณเริ่มตลิ่แม่น้า คลอง หรือทนน้าท่วมได้ระดับหนึ่ง
ขอขอบคุณภาพจาก Google
ลำต้น มีลำต้นเดียว
ไม่แตกต่างแขนงหรือมีตาข้าง แต่มีตายอดเพียงตาเดียวที่เจริญเติบโตเพิ่มขนาดความสูง
ภายในลำต้นไม่มีเนื้อเยื่อใหม่
เมื่อเกิดแผลจะไม่สามารถรักษาแผลได้ซึ่งรอยแผลจากการหลุดร่วงของใบตลอดลำต้นทำให้สามารถคำนวณอายุของต้นมะพร้าวได้
(จำนวนรอยแผล+ใบปัจจุบัน 7 12 หรือ 14 = อายุต้น)
ซึ่งมะพร้าวน้าหอมมีลำต้นสูงประมาณ 8-10 เมตร
ส่วนมะพร้าวส่วนมะพร้าวต้นสูงจะสูงได้ถึง 15-20 เมตร
ขอขอบคุณภาพจาก Google
ใบ ประกอบด้วยก้านใบหรือทางใบ
และใบย่อย บนก้านทาง ประมาณ 200-300 ใบ ใน 1 รอบต้นจะมีใบอยู่ ประมาณ 5 ใบ ซึ่ง 1
ทรงฟุ่มใบมะพร้าวแต่ละความสมบูรณ์
ขอขอบคุณภาพจาก Google
ช่อดอกมะพร้าวประกอบด้วยดอก
3 ประเภทที่เรียงตัวอยู่บนก้านย่อย คือ
1. ดอกตัวผู้ อยู่ส่วนปลายของก้านย่อย
มี สีเหลืองอ่อน
ภายในดอกมีเกสรตัวผู้ และมีเกสรตัวเมียที่ไม่ทำหน้าที่
2. ดอกตัวเมีย
เรียกว่า button อยู่ส่วนโคลนของก้านย่อย
ประกอบด้วยบริเวณที่ดอกติดกับก้านชิ่ดอกมีกลีบที่กว้างและสั้นอีก 2 กลีบรองรับอยู่ภายในดอกมีเกสรตัวเมีย และรังไข่ ประกอบด้วย 3 คาร์เพล
3. ดอกรวมเพศ มีทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียที่สมบูรณ์อยู่ในดอกเดียวกัน
ขอขอบคุณภาพจาก Google
ผล ผลเกิดเป็นช่อเรียกว่า
ทะลาย ผลเป็นแบบ ประกอบด้วยเนื้อเยื่อ
3ชั้น คือ
: เปลือกนอกสุด เป็นแผ่นบางแข็ง
เหนียว ผิวมันเมื่อแก่จะมีสีเขียว แดง เหลือง น้าตาล ต่างกันไปตามพันธุ์
: เปลือกชั้นกลาง เป็นชั้นส้นใย
มีความหนาพอประมาณ
: เปลือกชั้นใน มีลักษณะแข็งหรือที่รียกกันว่า
กะลา
ขอขอบคุณภาพจาก Google
เมล็ด คือ ส่วนของผลที่อยู่ในกะลา
ประกอบด้วยเยื่อหุ้มเมล็ด บางๆสีนํ้าตาลม่วง เนื้อมะพร้าว นํ้ามะพร้าว และคัพภะ เมื่อคัพภะงอก ใบเลี้ยงจะพองโตคล้ายฟองนํ้า เรียกว่า จาว
ขอขอบคุณภาพจาก Google
ปัจจัยสภาพแวดล้อม
ประเทศไทยนับว่าเป็นประเทศที่มีสภาพอากาศและพื้นที่เหมาะกับการปลูกมะพร้าว
เพราะมะพร้าวจัดเป็นผลไม้ที่เติบโตได้ดีในเขตร้อยชื้นซึ่งนอกจากเรื่องของสภาพอากาศ หลักทั่วไปในการเลือกปลูกมะพร้าวควรคำนึงถึงปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ดังนี้
ขอขอบคุณภาพจาก Google
สภาพดิน :
โดยทั่วไปมะพร้าวสามารถปลูกได้ในดินเกือบทุกชนิด
แต่ที่ได้ผลดีคือ ดินร่วน ดิร่วนผนทรายหรือดินที่มีการระบายน้าได้ดี ดินตะกอนปากแม่น้า
ดินที่ไม่มีน้าขัง นอกจากนั้นต้องคำนึงถึงลักษณะพื้นที่ประกอบด้วย เช่น
-
การปลูกในที่ลุ่มและที่ดอน มะพร้าวสามารถปลูกเจริญเติบโตได้ดีบนที่ดอนมากกว่าที่ลุ่มเพราะมีการระบายน้าในดินได้ดี
โดยการปลูกอาจทำในลักษณะการปลูกแบบไร่
แต่การที่จะปลูกมะพร้าวในที่ลุ่มให้ได้ผลจึงนิยมปลูกด้วยวิธีการยกเป็นคันร่องให้ได้สูงพ้นระดับน้าขัง
สูงกว่าระดับน้าในฤดูน้าหลาก หรือประมาณ 60 เซนติเมตร หรือปลูกแบบยกร่องสวน
- ดินดาน ดินที่มีชั้นหินแข็งหรือดินดานอยู่ลึกจากผิวดินน้อยกว่า 1 เมตร ไม่ควรปลูกมะพร้าว หรือหากต้องการปลูกก็ต้องลงทุนในการปรับพื้นที่สูง
-
ดินไม่ดี หรือดินที่มีความสมบูรณ์น้อยหากต้องการปลูกในพื้นที่เช่นนี้ควรมีการเก็บตัวอย่างดินวิเคราะห์และปรับปรุงพื้นที่ก่อนปลูกเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีคุ้มค่าแก่การลงทุน
ขอขอบคุณภาพจาก Google
แหล่งน้า :
การปลูกมะพร้าวส่วนใหญ่จะเน้นการปลูกด้วยการพึ่งพาธรรมชาติ
ดังนั้น “ฝน” จึงถือเป็นปัจจัยสำคัญ โดยปริมาณน้าผนที่พืชต้องการจะต้องไม่น้อยกว่า
1,500 มิลลิลิตร/ปี
แต่หากพื้นที่ไหนมีผนตกน้อยกว่า 50 มิลลิลิตร/เดือน หรือแล้งติดต่อกัน 3
เดือนจะส่งผลให้มะพร้าวออกผลผลิตน้อย
อากาศ/อุณหภูม:
อุณหภูมิของอากาศที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 20-29
องศาเซียส เช่น ภาคใต้ ภาคกลาง และ ภาคตะวันออก
ทางด้านระดับความสูงของพื้นที่ก็ส่งผลถึงอุณหภูมิเพราะหากเป็นที่บนภูเขาที่สูงกว่าระดับน้าทะเล
เกิน 600 เมตรขึ้นไป และมีอากาศหนาวเย็นอุณหภูมิต่ากว่า 15
องศาเซลเซียสจะไม่เหมาะกับการปลูกมะพร้าวเพราะจะได้ผลผลิตต่า
นอกจากนี้ยังมีเรื่องความชื้นสัมพัทธ์ สำหรับพื้นที่ทั่วไปควีอยู่ประมาณ
80-90% หรือหากเป็นพื้นที่ชายฝั่งทะเลความชื้นจะประมาณ 75% แต่ไม่ควรต่ากว่า 60% เพราะจะส่งผลกระทบเรื่องผลผลิตและอาจทำให้เกิดโรค
เช่น โรคตาเน่า
ขอขอบคุณภาพจาก Google
สถานที่ปลูกใกล้ไกลจากชายฝั่งทะเล:
พื้นที่ที่อยู่ใกล้ทะเลจะได้อิทธิพลด้านความชื้ในชั้นบรรยายกาศที่สม่าเสมอ
ประกอบกับน้าทะเลมีธาตุอาหารหลายชนิด เช่น โซเดียม และคลอรีน
เป็นสารประกอบที่มะพร้าวเป็นพืชทนเค็มได้พอสมควรจึงสามารถนำธาตุอาหารไปใช้ประโยชน์ได้
ขอขอบคุณภาพจาก Google
การปลูก
การเตรียมพันธุ์ก่อนลงแปลงปลูก
หลังจากคัดเลือกผลลัพธุ์ที่สมบูรณ์แล้ว
ขั้นตอนการนำพันธ์มะพร้าวไปเพาะปลูก ทำได้ 2 วิธี ดังนี้
ขอขอบคุณภาพจาก Google
1.ให้ต้นงอก
เริ่มจากเลือกผลมะพร้าวแก่ผิวเป็นสีก้ามปูที่สมบูรณ์ ผลไม่แตก
ไม่มีโรคแมลงรบกวน เก็บเกี่ยวมาพักไว้ในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเท อยู่ในที่ร่ม
และไม่ควรเก็บรักษาไว้นานเกิน 1 เดือน นำผลมะพร้าวมาปาดเปลือกด้านหัวออก (ประมาณเท่าผลส้มเขียวหวาน)
เพื่อให้น้าซึมเข้าไปได้สะดวกในระหว่างที่ทำการเพาะ จากนั้นหากมีขุยมะพร้าว หรือขี้เถ้าแกลบให้มิดและรดน้าให้วัสดุเพาะยุบตัวลงเหลือความสูงประมาณ
2/3 ของผล จากนั้นคอยรดน้าควบคุมความชื้น เพื่อช่วยให้ผลสามารถแทงหน่อได้ดี ประมาณ
20 วัน ไปแล้วผลมะพร้าวจะเริ่มแทงหน่อ
ขอขอบคุณภาพจาก Google
2.การเพาะชำหน่อ
การเพาะวิธีนี้จะต้องเลือกหน่อที่มีความสมบูรณ์ตามอายุ
และหน่อโผล่พ้นรอยเฉือนลูกมะพร้าวขึ้นมาประมาณ 1-3 นิ้ว จากนั้น เตรียมแปลงเพาะชำ
ด้วยการไถหรือขุดดินให้มีความลึกประมาณ 20 เซนติเมตร (หรือลึกประมาณ 2/3 ของผล) x ความกว้าง 2 เมตร
หรือตามความเหมาะสมของพื้นที่
นำผลมะพร้าวที่มีหน่องอกแล้ววางเรียงลักษณะแถวสลับฟันปลา เว้นระยะห่างระหว่างผล
ประมาณ 40-50 เซนติเมตร จากนั้นกลบดินความสูงประมาณ 2/3 ผลให้ทั่วแปลง
แล้วให้ใช้หญ้าแห้ง ฟาง หรือทางมะพร้าวคลุมแปลงเพาะเพื่อป้องกันความชื้น
และควรหมั่นรดน้าไม่ให้แปลงเพาะชำแห้ง
สำหรับการเพาะด้วยวิธีการเพาะชำหน่อจะมีข้อด้อย คือ
หากผลมะพร้าวมีรากแทงลงดินแล้วการเคลื่อนย้ายไปปลูกในแปลงปลูกจะทำให้ต้นมะพร้าวชะงักการเจริญเติบโต
แต่ข้อดีคือ สามารถเก็บหน่อไว้ได้นาน
การคัดเลือกหน่อพันธุ์ :
มะพร้าวที่มีขนาดใกล้เคียงกันจะมีการเจริญเติบโตไล่เลี่ยกัน
แต่อาจมีความสมบูรณ์ต่างกันดังนั้นการเลือกหน่อพันธ์ควรเลือกหน่อทีมีความสมบูรณ์
ต้นตรงไม่คด โคนหน่ออวบ ลักษณะใบ แผ่กว้าง สีเขียวเข้ม ก้านทางสั้นใหญ่
ไม่มีโรคและแมลงทำลาย เป็นต้น
ขอขอบคุณภาพจาก Google
การเตรียมพื้นที่ :
การเตรียมพื้นที่ในการปลูกมะพร้าวจะต้องมีการไถปรับพื้นที่ให้โล่งเตียน
ไม่มีวัชพืชหรือตอไม้ส่วนพืชที่ลุ่มหรือมีน้าท่วมขังควรใช้วิธีการปลูกแบบยกร่อง
โดยให้คันร่องสูงไม่น้อยกว่า 60 เซนติเมตร
ส่วนการปลูกมะพร้าวในพื้นที่ที่มีความลาดชันมากๆควรปลูกในลักษณะขั้นบันได
และต้องมีการปลูกพืชกันดินพังทลายด้วย
ขอขอบคุณภาพจาก Google
ระยะปลูก :
หากเป็นการปลูกมะพร้าวหรือมะพร้าวต้นสูงควรเว้นระยะห่าง
8.50-9 เมตร ส่วนมะพร้าว ต้นเตี้ยนิยมใช้ระยะห่าง 6.5 x 6.5 เมตร
โดยระยะห่างระหว่างแถวสามารถปลูกแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส และสามเหลี่ยมด้านเท่า แต่ข้อดีของการปลูกแบบสามเหลี่ยมด่านเท่าจะได้จำนวนต้นมากกว่าการปลูกแบบสามเหลี่ยมจัตุรัสประมาณ
15% โดยการเว้นระยะปลูกแบบสามเหลี่ยมด้านเท่า มีดังนี้
ระยะห่างระหว่างต้น 9 เมตร
ระยะห่างระห่างแถว 7.80 เมตร (จำนวน
22 ต้น/ไร่)
ระยะห่างระหว่างต้น 8.50 เมตร ระยะห่างระหว่างแถว
7.36 เมตร (จำนวน 25 ต้น/ไร่)
ระยะห่างระหว่างต้น 6.50 เมตร ระยะห่าง
ระหว่างแถว 5.63 เมตร (จำนวน 43
ต้น/ไร่)
ขอขอบคุณภาพจาก Google
การเตรียมหลุมปลูก :
การปลูกมะพร้าวในพื้นที่ดินมีความอุดมสมบูรณ์น้อยหรือที่ดอนให้ขุดหลุมขนาดกว้าง
1 เมตร x ความยาว 1 เมตร x ความลึก 1 เมตร ส่วนในพื้นที่ลุ่มหรือพื้นที่ดินอุดมสมบูรณ์สามารถขุดหลุมเล็กลงมา
(ขนาดใหญ่กว่าลูกมะพร้าวเล็กน้อย)
ขอขอบคุณภาพจาก Google
วิธีการขุดหลุม :
ควรเริ่มทำในช่วงฤดูแล้งโดยการขุดเอาดินผิวไว้ด้านหนึ่งแยกดินชั้นล่างไว้อักด้านหนึ่ง หลังจากนั้นตากดินไว้ประมาณ 7 วัน เมื่อครบกำหนดให้หาเศษไม้มาเผาที่ก้นหลุมเพื่อช่วยป้องกันปลวก จากนั้นรองก้นหลุมด้วยกาบมะพร้าว 2 ชั้น (อัตราส่วน1 ปี/หลุม หรือ ร็อกฟอสเฟตครึ่งกิโลกรัม/หลุม) จากนั้นใส่ดินและปุ๋ยที่ผสมกันแล้วจนเต็ม หลุม ปล่ยทิ้งไว้จนถึงฤดูปลูก
ควรเริ่มทำในช่วงฤดูแล้งโดยการขุดเอาดินผิวไว้ด้านหนึ่งแยกดินชั้นล่างไว้อักด้านหนึ่ง หลังจากนั้นตากดินไว้ประมาณ 7 วัน เมื่อครบกำหนดให้หาเศษไม้มาเผาที่ก้นหลุมเพื่อช่วยป้องกันปลวก จากนั้นรองก้นหลุมด้วยกาบมะพร้าว 2 ชั้น (อัตราส่วน1 ปี/หลุม หรือ ร็อกฟอสเฟตครึ่งกิโลกรัม/หลุม) จากนั้นใส่ดินและปุ๋ยที่ผสมกันแล้วจนเต็ม หลุม ปล่ยทิ้งไว้จนถึงฤดูปลูก
ขอขอบคุณภาพจาก Google
วิธีการปลูก :
ควรเริ่มปลูกในฤดูฝนตกใหญ่แล้ว 2 ครั้งโดยการนำหน่อ (ลูกมะพร้าวที่มีต้นงอกมาและมีรากแล้ว) วางลงในหลุม เอาดินกลบและเหยียบด้านข้างๆ ให้แน่น ซึ่งการกลบดิน ไม่ควรกลบสูงมากเกินไปเพราะดินจะทั้บคอหน่อมะพร้าวและทำให้มะพร้าวเติบโตช้า หรือ ควรปลูก่ากว่าปากหลุม 15 เซนติเมตร แต่สำหรับบางพื้อนที่ที่เป็นพื่นที่ลุ่มระดับน้าใต้ดินสูงเสมอหรือสูงขึ้นมาเล็กน้อย
ควรเริ่มปลูกในฤดูฝนตกใหญ่แล้ว 2 ครั้งโดยการนำหน่อ (ลูกมะพร้าวที่มีต้นงอกมาและมีรากแล้ว) วางลงในหลุม เอาดินกลบและเหยียบด้านข้างๆ ให้แน่น ซึ่งการกลบดิน ไม่ควรกลบสูงมากเกินไปเพราะดินจะทั้บคอหน่อมะพร้าวและทำให้มะพร้าวเติบโตช้า หรือ ควรปลูก่ากว่าปากหลุม 15 เซนติเมตร แต่สำหรับบางพื้อนที่ที่เป็นพื่นที่ลุ่มระดับน้าใต้ดินสูงเสมอหรือสูงขึ้นมาเล็กน้อย
หลังจากนั้นเกลี่ยดินปากหลุมให้เรียบร้อยแล้วเอาไม้ปักทำต้นมะพร้าวเพื่อกัลมโยก
ซึ่งสำหรับการปลูกมะพร้าวต้นเตี้ยสีเหลือง หรือ สีแดง ควรมีร่มกันแดดให้ในระยะที่ปลูกใหม่ๆเพราะมะพร้าว
2 ชินดนี้ ไม่ทนต่อสงแดด อาจทำให้ใบไหม้เมื่อถูกแดดจัดๆ
ขอขอบคุณภาพจาก Google
การดูแลรักษา
การให้ปุ๋ย
สำหรับการให้ปุ๋ยครั้งแรกหลังปลูกจะทำเมื่อมะพร้าวมีอายุได้ 6 เดือน หรือเมื่อ มะพร้าวตั้งต้นได้ดี
ใบยอดเริ่มคลี่ออกเป็นต้นไป โดยเลือกใส่ปีละ 2 ครั้ง ซึ่งสำหรับปุ๋ยที่ใช้
สามารถใส่ได้ทั้งปุ๋ยเคมีและปุ๋ยคอก ดังนี้
ปุ๋ยมูลสัตว์ (ปุ๋ยคอก) เช่น มูลวัว มูลควาย อัตราใส่ 2 ปีบ/ต้น/ปี มูลเป็ด มูลไก่
ควรแบ่งใส่ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 ปีบ/ต้น
ปุ๋ยเคมี แบ่งใส่ทุกๆ 6 เดือน
ครั้งแรกในช่วงต้นฝนประมาณเดือนพฤษภาคมเดือนธันวาคมแล้วแต่ฤดูกาลของแต่ละแห่ง
โดยปุ๋ยเคมีที่แนะนำให้ใช้คือ ปุ๋ยผสมสูตร 13 : 13 :
21 ร่วมกับปุ๋ยแมกนีเซียมซัลเฟต หรือหินปูนโดโลไมท์
อัตราการใช้ดังนี้
มะพร้าวอายุ 1 ปี ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21
หรือ 12-12-17-2 จำนวน 1
กิโลกรัม/ต้น/ปี แมกนีเซียมซัลเฟต 200 กรัม/ต้น/ปี (ยังไม่ใส่โดโลไมท์)
มะพร้าวอายุ 2 ปี ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21
หรือ 12-12-17-2 จำนวน 3
กิโลกรัม/ต้น/ปี/แมกนีเซียมซัลเฟต 300
กรัม /ต้น/ปี โดโลไมท์ – กิโลกรัม/ต้น/ปี
มะพร้าวอายุ 4 ปีขึ้นไป ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21
หรือ 12-12-17-2 จำนวน 4
กิโลกรัม ต้น/ปี แมกนีเซียมซัลเฟต 500 กรัม /ต้น/ปี โดโลไมท์
4 กิโลกรัม/ต้น/ปี
สำหรับปุ๋ยแมกนีเซียมซัลเฟตและหินปูนโดโลไมท์ให้ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง
ซึ่งถ้าใช้หินปูนโดโลไมท์แนะนำให้หว่านก่อนใส่ปุ๋ยอย่างอื่นอย่างน้อย 1 เดือน หรืออาจเสริมการใส่กลีเซอร์ไรด์หรือเกลือแกงให้มะพร้าว
1 กิโลกรัม/ต้น/ปี เพื่อเพิ่มธาตุคลอไรด์
ช่วยให้มะพร้าวขึ้นอยู่กับผลการวิเคราะห์ดินด้วยจึงจะทำให้การใช้ปุ๋ยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กว้าง 12 เซนติเมตร x ลึกประมาณ 10-15
เซนติเมตร x ระยะห่าง (วงด้านใน) จากโคนต้น 100-180 เซนติเมตร
จากนั้นเอาปุ๋ยคอกใส่ลงในรางแล้วกลบดิน หรืออีกวิธีหนึ่งคือขุดหลุมขนาด 30 x 30 x 30
เซนติเมตร ห่างจากโคนต้นประมาณ 1.50-2 เมตร
ต้นละ 3 หลุม จากนั้นใส่ปุ๋ยลงหลุมแล้วกลบดิน
โดยหลุมที่ขุดใส่ปุ๋ยจะต้องเปลี่ยนที่ทุกปีจนกระทั่งวนรอบต้น
ขอขอบคุณภาพจาก Google
ประโยชน์ของมะพร้าว เช่น นํ้ามันมะพร้าว
วิธีการทำน้ามันมะพร้าวเริ่มด้วยการเตรียมหัวกระทิ
แล้วเทลงใส่ภาชนะ เช่น หม้อ กระทะ แล้วนำไปอุ่นทิ้งไว้ด้วยความร้อนประมาน 60-100
องศา
หลังจากนั้นผ่านไปประมาณ
20-30 นาที จะเกิดการจับตัวเป็นไขคล้ายๆคลีมเป็นไอละอุ
ให้อุ่นทิ้งไว้ประมาณ 6-7
ชั่วโมง ควรอุ่นทิ้งไว้ด้วยตัวถ่านเพราะจะประหยัดกว่าและอยู่ได้นานกว่าแก๊ส ตัดปัญญาเรื่องแก๊สจะหมดไปได้เลย
หลังจากผ่าไปได้ 6-7
ชั่วโมงแล้วเราจะได้น้ามันออกมาในรูปแบบรอยตัวอยู่บนเนื้อครีม ดังภาพ
ขอขอบคุณภาพจาก Google
แล้วจึงนำมาครั่วผัดต่อจน 2 สิ่งแยกตัวออกจากกัน จึงได้เป็นนํ้ามันมะพร้าว ดังภาพ